การเจริญเติบโตและผลผลิตแต่ละช่วงอายุของไม้
ไม้สักจัดได้ว่าเป็นไม้โตเร็วชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับไม้ชนิดอื่น อีกหลาย ๆ ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจริญเติบโตในช่วง 10 ปีแรกจะเร็วมาก อย่างไรก็ตามไม้สักจะโตเร็วมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ(1) สภาพพื้นที่ที่ปลูก รวมทั้งการเตรียมพื้นที่
(2) การจัดการสวนป่ารวมทั้งการบำรุงรักษา และ
(3) คุณภาพของเมล็ดหรือกล้าพันธุ์ที่ใช้ปลูก
ในพื้นที่ที่เหมาะสมและมีการจัดการสวนป่าเป็นอย่างดี ต้นสักอายุ 10 ปี จะสูงเฉลี่ยมากกว่า 15 เมตรขึ้นไปและมีเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยมากกว่า 15 ซม. มีผลผลิต (ไม้ท่อน) สูงกว่า 13 ม.3 ต่อไร่ หลังจากนั้นการเจริญเติบโตทางความสูงจะลดลง แต่ความโตทาง เส้นรอบวงจะยังคงเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ
การเจริญเติบโตดังกล่าวสามารถที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้อีก 25-30 % หากสวนป่าได้รับการจัดการและการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ดี มาใช้ในการปลูกสร้างสวนป่า
ค่าใช้จ่ายของการปลูกไม้สัก
ในการหาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการปลูกสร้างสวนป่าไม้สักนั้น ได้มีการศึกษาในพื้นที่ที่ต้นสักเจริญเติบโตด ี โดยกำหนดรอบตัดฟันไว้ 15 ปี อัตราการเจริญเติบโต (เส้นผ่าศูนย์กลาง)2.0-2.5 ซม./ปี มีการตัดไม้บำรุงป่าในปีที่ 6 และทำการตัดสางขยายระยะในปีที่ 11 ได้ปริมาณ 3 ลบ.ม.ต่อไร่ ปลูกระยะห่าง 2x4 เมตร จำนวน 200 ต้น/ไร่ (อายุ 1-5 ปี มีต้นไม้หลังการรอดตาย 180 ต้น/ไร่อายุ 6-10 ปี มีต้นไม้ 90 ต้น/ไร่ และอายุ 11-15 ปี มีต้นไม้ 45 ต้น/ไร่) และผลผลิตเมื่อไม้มีอายุครบรอบตัดฟันจะมีปริมาณไม่ต่ำกว่า 12 ลบ.ม./ไร่ มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนในช่วงระยะเวลา 15 ปี คิดเป็นเงินรวม 6,000 บาท/ไร่ และเมื่อคิดอัตราส่วนลด หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 15% ในระยะเวลา15 ปี จะต้องเสียดอกเบี้ยรวม 22,000 บาท/ไร ่ เมื่อรวมกับต้นทุนดังกล่าวข้างต้น จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อครบเวลา 15 ปี เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 28,000 บาท/ไร่การใช้ประโยชน์ไม้สัก
ไม้สัก เป็นไม้ที่เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แทบทุกรูปแบบตามอายุและขนาดของไม้ที่ ตัดออกมาจำหน่ายตั้งแต่ไม้ซุงขนาดใหญ่ เพื่อแปรรูปใช้ในการก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน เฟอร์นิเจอร์ ไม้ปาร์เก้ไม้อัด ไม้แกะสลัก ต่อเรือ ฯลฯไม้ซุงขนาดเล็กลงมาที่ได้จากการตัดสางขยายระยะในสวนป่าปีที่ 11 สามารถนำมาทำบ้านไม้ซุง(Log home) ได้อย่างสวยงามและคงทนหรือนำมาผ่าซีกทำเป็นไม้โมเสค วงกบประตูหน้าต่างได้ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก
ในสมัยก่อนไม้สักค่อนข้างจะหาง่ายและราคาไม่แพง ประชาชนสามารถสร้างบ้านทั้งหลังโดยใช้ไม้สักล้วนๆ ได้ แต่ในปัจจุบันไม้สักในป่าธรรมชาติกำลังจะหมดไป เพราะความต้องการใช้สูงและทำไม้ออกขาดหลักวิชาการ รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกไม้สักเพื่อใช้เองหรือเพื่อ การค้าได้ และเนื่องจากความต้องการใช้ไม้ มีมาก และนับวันจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องราคาและการตลาด สำหรับไม้ชนิดนี้ แต่อย่างใดในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นไม้ขนาดเล็กที่ได้จากการตัดสางขยายระยะ หรือไม้ซุง เมื่อมีการตัดมาใช้ประโยชน์ครั้งสุดท้ายก็ตาม
ข้อจำกัดของไม้สัก
การปลูกไม้สักอาจจะมีข้อจำกัดบางประการดังต่อไปนี้(1) ด้านสภาพพื้นที่ ไม้สักไม่ชอบพื้นที่ลุ่ม ที่ชื้นแฉะ มีน้ำท่วมขัง ดินระบายน้ำไม่ดี เช่น ดินเหนียวดินลูกรัง ดินดาน และดินที่เป็นทรายจัดหรือดินตื้นมาก ๆ
(2) ด้านสภาพแวดล้อม ไม้สักจะเจริญเติบโตไม่ดีในที่แห้งแล้ง หรือมีฝนตกไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูการเจริญเติบโต
(3) การปลูกไม้สักล้วน ๆ เป็นผืนใหญ่ ๆ อาจก่อให้เกิดโรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่าย เช่นหนอนกินใบสักและมอดป่าเจาะไม้สัก เป็นต้น
ข้อเสนอแนะ
(1) ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีความเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของไม้สักมากที่สุด เท่าที่จะมากได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของดินและการเตรียมพื้นที่ควรทำให้ ประณีตที่สุด(2) ในที่แห้งแล้ง ฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล ควรมีระบบการรดน้ำด้วย
(3) การปลูกสักในที่ดินผืนใหญ่ ควรแบ่งแปลงปลูกออกเป็นแปลงย่อย ๆ โดยปลูกไม้มีค่าชนิดอื่น ๆเป็นแนวกั้นเพื่อลดความรุนแรงจากโรคและแมลงทำอันตราย
(4) ควรนำระบบวนเกษตรมาใช้ด้วย เพราะนอกจากจะช่วยให้ต้นสักเจริญเติบโตดีขึ้นแล้ว ยังสามารถได้รับผลผลิตจากพืชเกษตรที่ปลูกควบอีกทางหนึ่งด้วย
การปลูกสัก แม้ว่าจะต้องลงทุนสูงบ้างในช่วงแรก ๆ แต่ผลตอบแทนระยะยาวที่ได้รับนั้นย่อมคุ้มค่าเสมอการปลูกไม้สักนอกจากจะเป็น การเพิ่มพูนค่าให้แก่ที่ดินของท่านแล้ว ยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของชาติโดยส่วนรวมอีกด้วย
รับออกแบบ เฟอร์นิเจอร์(ลอยและบิลท์อิน), บ้านทรงไทย,บ้านไม้สไตล์โมเดิร์น, บานประตู-หน้าต่าง, วงกบ
contact | miti_teakwoods@hotmail.com, Our facebook
ขอขอบคุณข้อมูลจาก