การคัดเลือกพื้นที่
การคัดเลือกพื้นที่สำหรับปลูกไม้สัก ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญ เติบโตของไม้สัก ตามที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อปัจจัยสิ่งแวดล้อม ที่เหมาะสมให้มากที่สุดการเตรียมพื้นที่
การปลูกสักในเชิงธุรกิจ ควรเตรียมพื้นที่ปลูกโดยใช้เครื่องจักรกล เช่น รถแทรกเตอร์ เกรดปรับที่ และไถบุกเบิก ๑ ครั้ง และไถพรวนสลับอีก 1 ครั้ง หากพื้นที่มีขนาดใหญ่ ควรแบ่งออกเป็นแปลงย่อยแปลงละประมาณ ๕๐-๑๐๐ ไร่ โดยเกรดเป็นทางตรวจการรอบ ๆ เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานและการดูแลรักษาการปลูก
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับปลูกสักที่จะให้ผลดีที่สุด คือ ช่วงต้นฤดูฝน หลังจากที่มีฝนตกหนักและดินชุ่มชื้นเพียงพอ(เดือนพฤษภาคม) หลังจากปลูกแล้วหากเกิดฝนทิ้งช่วง ก็ควรรดน้ำช่วยจะทำให้เปอร์เซ็นต์การรอดตายสูงและมีการเจริญเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง วิธีการปลูกด้วยเหง้า กระทำโดยใช้เหล็กชะแลงกระทุ้งดินให้เป็นรูลึก เท่าความยาวของเหง้าสักแล้วนำเหง้าที่เตรียมไว้เลียบลงไปให้พอดีกับระดับดิน หรือต่ำกว่าผิวดินเล็กน้อย ใช้ชะแลงอัดดินข้างรูปลูกให้แน่น เพื่อให้เหง้าฝังแน่นกระชับอยู่ในดิน วิธีปลูกด้วยเหง้านี้เป็นวิธีที่ง่าย เสียค่าใช้จ่ายถูกและยังทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตดีด้วย เพราะในเหง้า สักมีการสะสมอาหารไว้สำหรับการเจริญเติบโตการปลูกด้วยเหง้าควรคัดเลือกเหง้าที่มีขนาดเท่ากันปลูกในบริเวณเดียวกัน เพื่อให้ต้นไม้เติบโตอย่างสม่ำเสมอมากที่สุด
การปลูกด้วยกล้าชำถุง เหมาะสำหรับการปลูกในพื้นที่ไม่มากนัก หากได้มีการคัดเลือกกล้าเป็นอย่างดีก็จะได้ต้นสักที่เจริญเติบโตเร็ว และสม่ำเสมอเช่นกัน การปลูกสักด้วยกล้านี้ควรขุดหลุมปลูก ขนาด ๒๐x๒๐x๒๐ ซม. รองก้นหลุม ด้วยปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยเคมี ผสมกับหน้าดิน และเศษใบไม้ หรือวัชพืช กล้าไม้ที่นำไปปลูกควรมีขนาดสูงไม่น้อยกว่า ๓๐ ซม. และได้รับการทำให้แกร่งเป็นอย่างดีแล้ว เมื่อปลูกแล้วอัดดินรอบ ๆ โคนต้น ให้แน่น หากทำการรดน้ำด้วยในช่วงฝนทิ้งช่วงก็จะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น
การบำรุงรักษา
การบำรุงรักษาต้นสักที่ปลูกแล้ว ต้องกระทำอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วง แรก ๆ เพื่อให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตดี รอดตายสูง ปราศจากโรคและแมลงทำลาย การบำรุงรักษาสวนไม้สัก ประกอบด้วย1. การแผ้วถางวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชให้โล่งเตียนตลอดเวลา เพื่อลดการแก่งแย่งธาตุอาหารในดินและเบียดบังแสงแดดซึ่งจำเป็นต่อการเจริญ เติบโตและยังช่วยป้องกันไฟป่าอันอาจจะเกิดขึ้นในฤดูแล้งได้ด้วย
2. การใส่ปุ๋ย ในพื้นที่ที่มีดินเลว ควรใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งการเจริญเติบโตในระยะแรก ๆ โดยใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 22-11-11ใส่ต้นไม้ปีละ 1-2 ครั้งโดยปีแรก ใส่ครั้งละ 25 กรัม/ต้น ปีที่ 2 50 กรัม/ต้น ปีที่ 3ใส่ 75 กรัม/ต้น ปีที่ 4-5 ประมาณ 100 กรัม/ต้น หากใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักด้วยก็จะทำให้โครงสร้างของดินดี ขึ้น
3. การป้องกันไฟป่า โดยทำทางตรวจการและแนวป้องกันไฟรอบ ๆ แปลง และควบคุมวัชพืชซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในบริเวณสวนให้เตียนตลอดฤดูแล้ง เพราะหากเกิดไฟป่าในสวนสักจะทำให้ต้นไม้ที่ยังเล็กอยู่ได้รับความเสียหายได้
4. การป้องกันโรคและแมลง โรคที่พบส่วนใหญ่ในต้นสักขนาดเล็ก คือ โรคเน่าคอดิน ซึ่งทำให้ต้นตายได้ เกิดจากดินมีความชื้นสูงเกินไป หรือน้ำท่วมขัง การแก้ไขโดยขจัดระบบการระบายน้ำให้ดี หรือหลีกเลี่ยงการปลูกบริเวณที่ลุ่ม น้ำท่วมขังได้ง่าย
5. เมื่อต้นไม้มีอายุมากขึ้นและขนาดโตขึ้น ควรมีการลิดและตกแต่งกิ่งเพื่อให้ลำต้นสวยงาม การตัดสางขยายระยะเพื่อเปิดโอกาสให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้เต็มที่ เป็นต้น
รับออกแบบ เฟอร์นิเจอร์(ลอยและบิลท์อิน), บ้านทรงไทย,บ้านไม้สไตล์โมเดิร์น, บานประตู-หน้าต่าง, วงกบ
contact | miti_teakwoods@hotmail.com, Our facebook
ขอขอบคุณข้อมูลจาก