การขยายพันธุ์และการผลิตกล้าเพื่อปลูก
การขยายพันธุ์ไม้สักอาจกระทำได้ทั้งโดยวิธีใช้เมล็ดและวิธีไม่ อาศัยเมล็ด การใช้เมล็ดขยายพันธุ์เป็นวิธีที่ปฏิบัติโดยทั่วไปในการปลูกสร้างสวนป่า เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและเหมาะสมสำหรับผลิตกล้าหรือเหง้าสักจำนวนมาก ๆ สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ เมล็ดที่ใช้ควรเก็บมาจากแม่พันธุ์หรือแหล่งพันธุ์ที่มีลักษณะดีหรือได้รับ การปรับปรุงพันธุ์มาแล้ว เช่น แหล่งเก็บพันธุ์หรือสวนผลิตเมล็ดพันธุ์เท่านั้นสำหรับการขยายพันธุ์โดยไม่อาศัยเมล็ดนั้น เป็นวิธีการที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก ต้องใช้เทคนิคและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง วิธีนี้ประกอบด้วยการติดตา การปักชำ และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ(Tissue Culture) หากเป็นการขยายพันธุ์จาก ต้นที่ได้รับการคัดเลือกหรือผ่านขบวนการปรับปรุงพันธุ์มาแล้ว ก็จะได้กล้าไม้ที่มีลักษณะดีโตเร็ว และเมื่อนำไปปลูกจะเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอกันดี มีรูปทรงตามที่ต้องการการขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด จะเริ่มต้นด้วยการเก็บหรือจัดหาเมล็ดพันธุ์ มาเพาะหว่านในแปลงเพาะ ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร หรือตามสภาพพื้นที่ โดยใช้เมล็ด 1 ลิตร ต่อพื้นที่แปลงเพาะ 1 ตารางเมตร โดยพยายามหว่านให้เมล็ดกระจายอย่างสม่ำเสมอ หรืออาจจะหว่านเป็นแถวในร่องบนแปลงเพาะซึ่งห่างกัน แถวละ 10 ซม. ก็ได้ แล้วกลบเมล็ดด้วยหน้าดิน หลังจากหว่านเสร็จก็มีการดูแลรักษา โดยการกำจัดวัชพืช ป้องกันโรคและแมลง ลิดใบ และใส่ปุ๋ยตามความจำเป็น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเพาะหว่านเมล็ดสัก คือ ช่วงเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคมหลังจากที่เมล็ดเริ่มงอก หากเกิดฝนทิ้งช่วงก็ควรรดน้ำช่วงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้กล้าไม้ตายหรือชงักการเจริญเติบโต
กล้าไม้สักจะงอกและเจริญเติบโตอยู่ในแปลงเพาะเป็นเวลาประมาณ 1 ปีแล้วจึงถอนขึ้นมาตัดแต่งให้เป็นเหง้าโดยตัดส่วนของลำต้นออกให้เหลือตา1-2 คู่ หรือยาวประมาณ 1-2 ซม.พร้อมทั้งตัดรากแขนงและปลายรากแก้วออก เหลือแต่ส่วนของรากแก้วยาวประมาณ 15 ซม. ซึ่งเมื่อตัดแต่งแล้วจะเรียกว่า“เหง้าสัก” สำหรับใช้ในการปลูกต่อไป ขนาดของเหง้าที่เหมาะสมสำหรับปลูก ควรมีเส้นผ่าศูนย์กลางตรงคอรากประมาณ 1-2 ซม. สำหรับเหง้าขนาดเล็กควรนำไปปักชำในถุงพลาสติกเพื่อให้แตกเป็นต้นกล้าก่อน แล้วจึงนำไปปลูกต่อไป
รับออกแบบ เฟอร์นิเจอร์(ลอยและบิลท์อิน), บ้านทรงไทย,บ้านไม้สไตล์โมเดิร์น, บานประตู-หน้าต่าง, วงกบ
contact | miti_teakwoods@hotmail.com, Our facebook
ขอขอบคุณข้อมูลจาก